เจาะลึกเทศกาลกินเจภูเก็ต: ประสบการณ์แห่งศรัทธาและวัฒนธรรม

เทศกาลถือศีลกินผัก (เจี๊ยะฉ่าย) ของจังหวัดภูเก็ต ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาลสำหรับผู้ที่งดเว้นเนื้อสัตว์ แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สืบทอดมากว่าศตวรรษ ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาสัมผัสกับพลังแห่งศรัทธา พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียว เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปทำความรู้จักกับเทศกาลสุดพิเศษนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

กำหนดการเทศกาลกินเจภูเก็ต

วางแผนการเดินทางของคุณล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พลาดประสบการณ์ครั้งสำคัญนี้:
ประจำปี 2568 (วาระพิเศษครบรอบ 200 ปี): ตรงกับวันที่ 21 - 29 ตุลาคม 2568

จุดเริ่มต้นแห่งศรัทธา: จากคณะงิ้วสู่ประเพณีที่ยิ่งใหญ่

ลองจินตนาการย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 200 ปีก่อน สมัยที่ภูเก็ตยังเป็นศูนย์กลางการทำเหมืองแร่ดีบุก และพื้นที่ "กระทู้" (ซึ่งปัจจุบันคืออำเภอกระทู้) ยังคงเป็นป่าเขา ที่แห่งนี้ได้มีคณะแสดงงิ้ว หรือคณะละครเร่จากประเทศจีนเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดการแสดงให้ชาวจีนโพ้นทะเลที่มาทำงานอยู่ที่นี่ได้รับชมเพื่อคลายความคิดถึงบ้านเกิด

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคณะงิ้วเกิดล้มป่วยลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ พวกเขาจึงได้จัดพิธีถือศีลกินผักขึ้นตามความเชื่อดั้งเดิม เพื่อบวงสรวงเทพเจ้า "กิ๊วอ๋องไต่เต่" และ "ยกอ๋องซ่งเต่" ผลปรากฏว่าอาการเจ็บป่วยได้ทุเลาลงจนหายเป็นปกติ สร้างความประหลาดใจและก่อเกิดความศรัทธาแก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก

เมื่อชาวบ้านเริ่มถือศีลกินผักกันแล้ว ก็มีผู้รู้ทักขึ้นว่าการประกอบพิธียังไม่สมบูรณ์ถูกต้องนัก เพราะขาดพิธีการอัญเชิญองค์เทพ "เก้าอ๋องไต่เต่" มาเป็นประธานในพิธี ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงได้ส่งตัวแทนเดินทางไปยังมณฑลกังไส ประเทศจีน เพื่อประกอบพิธีอัญเชิญ "เหี่ยวฮั่น" (ผงธูปศักดิ์สิทธิ์) กลับมายังภูเก็ต และได้นำตำราเกี่ยวกับพิธีกรรมต่างๆ ติดตัวกลับมาด้วย เมื่อทุกอย่างถูกปฏิบัติอย่างถูกต้องครบถ้วน พิธีถือศีลกินผักจึงมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น กลายเป็นรากฐานสำคัญของประเพณีที่สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้

ขบวนแห่ในเทศกาลกินเจภูเก็ต พิธีกรรมในศาลเจ้าช่วงกินเจ ม้าทรงในเทศกาลกินเจ

สำหรับนักท่องเที่ยว: สัมผัสเทศกาลอย่างเข้าถึง

สำหรับผู้ที่มาเยือนภูเก็ตในช่วงเทศกาลนี้ คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยพลังและสีสัน ธงสีเหลืองที่มีตัวอักษรจีนสีแดงจะประดับประดาอยู่ทั่วเมือง เสียงประทัดดังกึกก้อง และกลิ่นธูปคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ไฮไลท์สำคัญที่คุณไม่ควรพลาดคือ:

  • ขบวนแห่พระ (อิ้วเก้ง): ชมขบวนแห่รูปเคารพของเทพเจ้าไปตามท้องถนน พร้อมด้วยเหล่า "ม้าทรง" ที่แสดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆ ตามความเชื่อ
  • พิธีลุยไฟ (โก๊ยโห้ย): พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่จัดขึ้นในหลายศาลเจ้า เพื่อแสดงถึงการชำระล้างสิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย
  • การเยี่ยมชมศาลเจ้า (อ๊าม): ศาลเจ้าต่างๆ จะเปิดให้ผู้คนเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และร่วมพิธีกรรมตลอดทั้งวัน
  • ลิ้มลองอาหารเจ: ตลอดช่วงเทศกาล จะมีร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารเจหลากหลายชนิด ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะได้ลองชิมอาหารพื้นเมืองในรูปแบบที่ต่างออกไป

ข้อควรปฏิบัติในช่วงเทศกาล

เพื่อเป็นการให้เกียรติและเคารพต่อประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ มีข้อแนะนำเล็กน้อยสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมชมงาน:

  • การแต่งกาย: ควรแต่งกายด้วยชุดสีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์
  • สำรวมกาย วาจา ใจ: รักษาความสงบเรียบร้อย ไม่พูดจาหยาบคาย และปฏิบัติตนด้วยความเคารพต่อสถานที่และผู้ร่วมงาน
  • หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์: แม้จะไม่ได้เข้าร่วมถือศีล แต่ก็ควรงดการรับประทานเนื้อสัตว์ในบริเวณศาลเจ้าหรือพื้นที่จัดงาน
  • การถ่ายภาพ: สามารถถ่ายภาพได้ แต่ควรทำด้วยความเคารพและไม่รบกวนผู้ที่กำลังประกอบพิธีกรรม

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

เทศกาลกินเจภูเก็ตน่ากลัวไหม?

พิธีกรรมบางอย่างอาจดูน่าหวาดเสียว แต่ทั้งหมดเป็นไปด้วยความศรัทธา หากไม่สบายใจที่จะชมในระยะใกล้ สามารถเลือกชมจากระยะไกลได้ บรรยากาศโดยรวมของงานเต็มไปด้วยพลังบวกและความเลื่อมใส

ควรไปชมพิธีที่ศาลเจ้าไหนดี?

หากเป็นครั้งแรก แนะนำให้เริ่มต้นที่ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยฯ หรือศาลเจ้าบางเหนียว ซึ่งเป็นศาลเจ้าใหญ่และมีตารางกิจกรรมให้ติดตามได้ง่าย

การเดินทางในเมืองช่วงเทศกาลเป็นอย่างไร?

อาจมีการปิดถนนบางเส้นทางในช่วงที่มีขบวนแห่ ควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและใช้บริการขนส่งสาธารณะหรือการเดินเท้าจะสะดวกกว่า

Share facebook twitter line