
อะบอริจิน
"อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด" จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ชื่อของอุทยานฯ มีที่มาจากตำนานที่เล่าขานกันว่าเคยมีเรือสำเภาจีนอับปางลงในบริเวณนี้ แต่มีผู้รอดชีวิตขึ้นฝั่งมาได้ 300 คน จึงเป็นที่มาของชื่อ "เขาสามร้อยรอด" ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น "เขาสามร้อยยอด" ในปัจจุบัน
ด้วยความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ที่ครบครัน ทั้งทะเล ชายหาดสงบงาม เทือกเขาหินปูนสูงชัน ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ และพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของนักเดินทางทุกรูปแบบ
สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ มีความหลากหลายและน่าสนใจ เหมาะสำหรับกิจกรรมที่แตกต่างกันไป นี่คือจุดสำคัญที่คุณไม่ควรพลาด:
ไฮไลท์สำคัญที่สุดของอุทยานฯ คือ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" พลับพลาแบบจัตุรมุขที่ตั้งอยู่อย่างสง่างามภายในถ้ำพระยานคร สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อปี พ.ศ. 2433 ภาพของลำแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาต้ององค์พระที่นั่งผ่านปล่องเพดานถ้ำ ถือเป็นภาพที่งดงามจับใจและเป็นเอกลักษณ์ที่หาชมได้ยาก
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: แนะนำให้ไปถึงบริเวณพระที่นั่งในช่วงเวลาประมาณ 10:30 - 11:30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แสงจะส่องลงมาสวยงามที่สุด
การเดินทางไปยังถ้ำพระยานคร ต้องจอดรถไว้ที่หาดบางปู แล้วเลือกเดินทางต่อด้วยการนั่งเรือ (ประมาณ 400 บาท/ลำ) หรือเดินเท้าข้ามเขาไปยังหาดแหลมศาลา แล้วจึงเดินเท้าขึ้นสู่ตัวถ้ำ
สัมผัสระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ที่นี่เป็นแหล่งดูนกและพืชน้ำนานาชนิด โดยเฉพาะบัวหลวงที่เบ่งบานอย่างสวยงาม กิจกรรมยอดนิยมคือการล่องเรือไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติเพื่อชมทัศนียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของทุ่งบัวที่มีภูเขาหินปูนเป็นฉากหลัง ที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น "แรมซาร์ไซต์" (Ramsar Site) ซึ่งรับรองความสำคัญในระดับนานาชาติอีกด้วย
สำหรับสายผจญภัยที่ต้องการชมทิวทัศน์มุมสูงแบบ 360 องศา การเดินขึ้นจุดชมวิวเขาแดงคือคำตอบ จากบนยอดเขา คุณจะมองเห็นภาพอันกว้างไกลของหมู่บ้านชาวประมง ป่าชายเลน และท้องทะเลอ่าวไทย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขึ้นไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า
ชายหาดที่เงียบสงบและสวยงามภายในเขตอุทยานฯ หาดแหลมศาลา เป็นที่ตั้งของบ้านพักและเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นถ้ำพระยานคร ส่วน หาดสามพระยา เป็นหาดทรายยาวประมาณ 1 กม. มีทิวสนทะเลร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนและเป็นจุดกางเต็นท์ที่ได้รับความนิยม
เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่น นี่คือข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปเยือน:
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) มุ่งหน้าลงใต้ เมื่อถึงสี่แยกปราณบุรีให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสายปากน้ำปราณบุรี ขับไปประมาณ 4 กม. แล้วเลี้ยวขวาไปตามป้ายบอกทางอีกประมาณ 31 กม. ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ
หรืออีกเส้นทางหนึ่ง ขับตาม ถ.เพชรเกษมไปจนถึงหลักกิโลเมตรที่ 286.5 (ก่อนถึง อ.กุยบุรี) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 14 กม. ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ เช่นกัน