ไข้เหลือง (Yellow Fever): ข้อมูลวัคซีนและประเทศที่ต้องระวัง 2568

Update 12-Sep-2025 ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา กรุณาตรวจสอบกับสถานทูตของประเทศปลายทางอีกครั้งก่อนเดินทางเสมอ

การเดินทางไปยังดินแดนใหม่ๆ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้ ถือเป็นความฝันของนักเดินทางหลายคน แต่การเตรียมตัวที่ดีคือหัวใจสำคัญของการเดินทางที่ราบรื่นและปลอดภัย หนึ่งในการเตรียมตัวที่สำคัญที่สุดคือการป้องกัน "โรคไข้เหลือง" ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นในหลายประเทศ และมีข้อกำหนดที่นักเดินทางต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคไข้เหลือง สถานการณ์ปัจจุบันในปี 2567-2568 และข้อกำหนดการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่เดินทางจากประเทศไทย เพื่อให้คุณวางแผนทริปได้อย่างมั่นใจ

สมุดรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลืองและหนังสือเดินทาง

โรคไข้เหลืองคืออะไร? ทำไมถึงอันตราย?

ไข้เหลือง (Yellow Fever) คือโรคติดเชื้อไวรัสเฉียบพลันที่มียุงเป็นพาหะนำโรค พบได้บ่อยในเขตร้อนของทวีปแอฟริกาและอเมริกากลาง/ใต้ เชื้อไวรัสนี้สามารถทำให้เกิดอาการรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

วงจรการแพร่เชื้อมี 3 รูปแบบหลัก:

  • วงจรในป่า (Sylvatic Cycle): เป็นการแพร่เชื้อระหว่างลิงกับยุงป่า คนจะติดเชื้อได้โดยบังเอิญเมื่อเข้าไปในเขตป่า
  • วงจรในทุ่งหญ้า (Intermediate Cycle): พบในแอฟริกา ยุงจะแพร่เชื้อจากลิงสู่คน หรือจากคนสู่คนในระดับหมู่บ้าน
  • วงจรในเมือง (Urban Cycle): เป็นการแพร่เชื้อจากคนสู่คนโดยมียุงลายบ้าน (Aedes aegypti) เป็นพาหะ ซึ่งเป็นวงจรที่อันตรายที่สุดเพราะสามารถนำไปสู่การระบาดใหญ่ในพื้นที่ประชากรหนาแน่นได้

อาการของโรคไข้เหลือง

หลังจากได้รับเชื้อ (ถูกยุงกัด) จะมีระยะฟักตัวประมาณ 3-6 วัน ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาจไม่มีอาการ แต่ผู้ที่มีอาการจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลัก:

  1. ระยะแรก (Acute Phase): มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะฟื้นตัวได้หลังจากระยะนี้
  2. ระยะเป็นพิษ (Toxic Phase): ประมาณ 15% ของผู้ป่วยจะเข้าสู่ระยะนี้ ซึ่งอาการจะรุนแรงขึ้นมาก มีไข้กลับมาสูงอีกครั้ง พร้อมกับอาการดีซ่าน (ตัวเหลือง ตาเหลือง) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "ไข้เหลือง" อาจมีเลือดออกผิดปกติทางปาก จมูก หรือกระเพาะอาหาร และอาจนำไปสู่ภาวะตับวาย ไตวาย และเสียชีวิตได้ในที่สุด โดยอัตราการเสียชีวิตในระยะนี้สูงถึง 30-60%
สิ่งสำคัญ: ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสสำหรับรักษาโรคไข้เหลืองโดยตรง การรักษาทำได้เพียงแบบประคับประคองตามอาการเท่านั้น ดังนั้น "การป้องกันด้วยวัคซีนจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด"

วัคซีนไข้เหลือง: ฉีดครั้งเดียว ป้องกันตลอดชีวิต

ข่าวดีสำหรับนักเดินทาง! องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ยืนยันแล้วว่า วัคซีนป้องกันไข้เหลือง 1 เข็ม สามารถให้ภูมิคุ้มกันได้ตลอดชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องฉีดกระตุ้นอีก

ข้อควรรู้เกี่ยวกับวัคซีน:

  • ต้องฉีดล่วงหน้า: ควรฉีดวัคซีนอย่างน้อย 10 วัน ก่อนการเดินทาง เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ทัน
  • เอกสารรับรอง (สมุดเล่มเหลือง): หลังฉีดวัคซีน จะได้รับ "สมุดรับรองการฉีดวัคซีนหรือการป้องกันโรคระหว่างประเทศ" (International Certificate of Vaccination or Prophylaxis - ICVP) หรือที่เรียกกันว่า "สมุดเล่มเหลือง" ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องพกติดตัวตลอดการเดินทาง
  • ข้อห้าม: วัคซีนนี้มีข้อห้ามสำหรับทารกอายุต่ำกว่า 9 เดือน, สตรีมีครรภ์ (ยกเว้นกรณีที่ความเสี่ยงสูง), ผู้ที่แพ้ไข่รุนแรง และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง

รายชื่อประเทศที่ต้องฉีดวัคซีนไข้เหลือง (ข้อมูลล่าสุดปี 2568)

ข้อกำหนดของแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันไป บางประเทศบังคับฉีดสำหรับนักเดินทางทุกคน ในขณะที่บางประเทศบังคับเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง

ทวีปแอฟริกา

ประเทศที่บังคับให้ฉีดวัคซีนสำหรับนักเดินทางทุกคน (อายุ 9 เดือนขึ้นไป):

  • แองโกลา (Angola)
  • เบนิน (Benin)
  • บูร์กินาฟาโซ (Burkina Faso)
  • บุรุนดี (Burundi)
  • แคเมอรูน (Cameroon)
  • สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
  • คองโก (Congo)
  • สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC)
  • โกตดิวัวร์ (Côte d'Ivoire)
  • เฟรนช์เกียนา (French Guiana)
  • กาบอง (Gabon)
  • กานา (Ghana)
  • กินี-บิสเซา (Guinea-Bissau)
  • ไลบีเรีย (Liberia)
  • มาลี (Mali)
  • ไนเจอร์ (Niger)
  • เซียร์ราลีโอน (Sierra Leone)
  • โตโก (Togo)
  • ยูกันดา (Uganda)

ประเทศที่แนะนำให้ฉีดวัคซีน (และอาจบังคับหากมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง):

  • ชาด (Chad)
  • อิเควทอเรียลกินี
  • เอธิโอเปีย (Ethiopia)
  • แกมเบีย (Gambia)
  • กินี (Guinea)
  • เคนยา (Kenya)
  • มอริเตเนีย (Mauritania)
  • ไนจีเรีย (Nigeria)
  • เซเนกัล (Senegal)
  • โซมาเลีย (Somalia)
  • ซูดาน (Sudan)
  • เซาท์ซูดาน (South Sudan)

ทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้

สถานการณ์ในทวีปอเมริกาปี 2567-2568 น่ากังวลเป็นพิเศษ โดยมีการระบาดขยายวงกว้างนอกเขตแอมะซอน การฉีดวัคซีนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ประเทศที่แนะนำให้ฉีดวัคซีน (และอาจบังคับหากมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง):

  • อาร์เจนตินา (Argentina)
  • โบลิเวีย (Bolivia)
  • บราซิล (Brazil)
  • โคลอมเบีย (Colombia)
  • เอกวาดอร์ (Ecuador)
  • กายอานา (Guyana)
  • ปานามา (Panama)
  • ปารากวัย (Paraguay)
  • เปรู (Peru)
  • ซูรินาเม (Suriname)
  • ตรินิแดดและโตเบโก
  • เวเนซุเอลา (Venezuela)

การป้องกันส่วนบุคคลเพิ่มเติม

นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว การป้องกันไม่ให้ยุงกัดก็เป็นสิ่งสำคัญ:

  • ใช้สารไล่แมลง: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ DEET หรือ Picaridin
  • สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม: ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และเสื้อผ้าสีอ่อนเพื่อลดการดึงดูดยุง
  • เลือกที่พักที่ปลอดภัย: พักในห้องที่มีมุ้งลวดหรือเครื่องปรับอากาศ

สถานที่ฉีดวัคซีนไข้เหลืองในประเทศไทย

คุณสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากกรมควบคุมโรค ซึ่งมีทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน (คำแนะนำ: ควรโทรศัพท์สอบถามและนัดหมายล่วงหน้า)

หน่วยงานรัฐบาล (ตัวอย่าง):

  • คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล (กรุงเทพฯ)
  • สถาบันบำราศนราดูร (นนทบุรี)
  • สถานเสาวภา สภากาชาดไทย (กรุงเทพฯ)
  • ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
  • สำนักงานป้องกันควบคุมโรคตามเขตต่างๆ (เชียงใหม่, ชลบุรี, สงขลา)

โรงพยาบาลเอกชน (ตัวอย่าง):

  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ
  • โรงพยาบาลสมิติเวช
  • โรงพยาบาลพญาไท

การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำ อย่าให้โรคไข้เหลืองมาเป็นอุปสรรค เพียงวางแผนล่วงหน้า เข้ารับการฉีดวัคซีน และเตรียมอุปกรณ์ป้องกันให้พร้อม คุณก็สามารถออกไปสำรวจโลกกว้างได้อย่างสบายใจและปลอดภัยแล้วครับ

Share facebooktwitterline