เที่ยวยุโรปไม่เหมือนเดิม! เตรียมพร้อมรับระบบ EES ที่ด่าน ตม.

การเดินทางเข้า-ออกยุโรปกำลังจะเปลี่ยนไป จะไม่มีการประทับตราในหนังสือเดินทางอีกต่อไป เพราะสหภาพยุโรปจะเริ่มนำ ระบบบันทึกการเข้า-ออก (Entry/Exit System หรือ EES) มาใช้กับ 29 ประเทศในเขตเชงเก้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้งานได้เต็มรูปแบบในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นต้นไป

ทำไมต้องมี EES? เข้าใจเหตุผลเบื้องหลัง

หลายท่านอาจสงสัยว่าทำไมขั้นตอนจึงต้องเปลี่ยนแปลง คำตอบคือเพื่อปรับปรุงระบบการจัดการชายแดนให้ทันสมัย, ปลอดภัย, และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักคือ:

  • เพิ่มความปลอดภัย: ช่วยป้องกันการใช้เอกสารเดินทางปลอมหรือการแอบอ้างบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
  • ยกเลิกการประทับตรา: แทนที่ระบบเดิมด้วยการบันทึกข้อมูลแบบดิจิทัล ทำให้การตรวจสอบรวดเร็วและแม่นยำ
  • ติดตามการเข้า-ออกอัตโนมัติ: ระบบจะคำนวณระยะเวลาพำนัก (90 วันในทุกๆ 180 วัน) โดยอัตโนมัติ และช่วยระบุผู้ที่อยู่เกินกำหนด (Overstayers) ได้ทันที
นักเดินทางใช้งานตู้ Kiosk ของระบบ EES อัตโนมัติที่สนามบิน

ขั้นตอนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะเปลี่ยนไปอย่างไร?

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เมื่อคุณเดินทางถึงสนามบินในเขตเชงเก้นเป็นครั้งแรกหลังจากระบบ EES เริ่มใช้งาน ขั้นตอนจะเป็นดังนี้:

สำหรับการเดินทางครั้งแรก:

  1. ไปที่ตู้ Kiosk อัตโนมัติ (หรือเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่) เพื่อสแกนหนังสือเดินทาง (Passport)
  2. ลงทะเบียนข้อมูลชีวมิติ (Biometrics) โดยตู้จะทำการถ่ายภาพใบหน้าและให้คุณสแกนลายนิ้วมือ 4 นิ้ว
  3. พบเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยัน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลและอนุมัติการเข้าเมือง

ข้อมูลชีวมิติของคุณจะถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยเป็นเวลา 3 ปี

สำหรับการเดินทางครั้งต่อไป (ภายใน 3 ปี):

ขั้นตอนจะรวดเร็วขึ้นมาก คุณเพียงแค่สแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตน ก็สามารถผ่านด่านได้เลย

สำหรับครอบครัวที่มีเด็ก

เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จะได้รับการยกเว้นการสแกนลายนิ้วมือ แต่ยังคงต้องถ่ายภาพใบหน้าเพื่อบันทึกข้อมูลเข้าระบบ

ข้อควรรู้เพิ่มเติมสำหรับนักเดินทางชาวไทย

  • เผื่อเวลาในครั้งแรก: สำหรับการเดินทางครั้งแรกหลังระบบนี้เปิดใช้งาน ควรเผื่อเวลาที่สนามบินมากกว่าปกติสำหรับขั้นตอนการลงทะเบียน
  • ความปลอดภัยของข้อมูล: ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลชีวมิติของคุณจะถูกจัดเก็บและป้องกันภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป (GDPR)
  • EES ไม่ใช่ ETIAS: สำหรับคนไทยที่ต้องขอวีซ่าเชงเก้นอยู่แล้ว จะต้องผ่านระบบ EES แต่ "ไม่ต้อง" ลงทะเบียน ETIAS ซึ่งเป็นระบบสำหรับประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ระบบ EES กับ ETIAS แตกต่างกันอย่างไร?

EES (ระบบบันทึกการเข้า-ออก) ใช้กับนักเดินทางทุกคนที่ไม่ใช่พลเมือง EU (รวมคนไทย) ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ส่วน ETIAS (ระบบอนุมัติการเดินทาง) ใช้เฉพาะกับพลเมืองของประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า เพื่อลงทะเบียนล่วงหน้า สรุปคือคนไทยใช้ EES แต่ไม่ต้องยื่น ETIAS

เดินทางครั้งแรกหลังระบบ EES เริ่มใช้ ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

ควรเผื่อเวลาที่สนามบินให้มากขึ้น สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนข้อมูลชีวมิติครั้งแรก ซึ่งได้แก่การถ่ายภาพใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือ 4 นิ้ว

ระบบ EES มีผลต่อการนับวันพำนักในเขตเชงเก้นหรือไม่?

มีผลอย่างมาก ระบบ EES จะนับจำนวนวันที่คุณพำนักในเขตเชงเก้น (ไม่เกิน 90 วันใน 180 วัน) ได้อย่างแม่นยำและเป็นอัตโนมัติ ทำให้การอยู่เกินกำหนดจะถูกตรวจพบได้ทันที

วางแผนเดินทางยุโรปยุคใหม่ มั่นใจทุกขั้นตอน

การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบ EES คือก้าวสำคัญของการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น และหัวใจสำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นการมีวีซ่าที่ถูกต้องและพร้อมใช้งานเสมอ

มีข้อสงสัยเรื่องการยื่นวีซ่า หรือต้องการผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญ?
ปรึกษา Plan-Travel วันนี้! ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี
Share facebooktwitterline