แล้วเราจำเป็นต้องพริ้นต์ E-ticket ในรูปแบบกระดาษ มาเก็บไว้กับตัวในวันเดินทางหรือไม่

คำตอบคือ ถ้าเรามี E-ticket ในรูปแบบกระดาษเก็บไว้กับตัว หากพนักงานที่เคาน์เตอร์เช็คอิน หรือเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ของประเทศที่เราเดินทางไป ต้องการดูรายละเอียด เที่ยวบินของเรา เราก็สามารถยื่นเอกสาร ให้พวกเขาดูได้สะดวกกว่าที่ เราจะเปิดให้พวกเขาดูผ่านแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน

อย่างไรก็ตาม เราสามารถเปิดดูข้อมูลการเดินทางผ่านสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ตได้และ แคปหน้าจอไว้ หากไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็ยังสามารถเปิดดูได้ เพื่อความสะดวกสบาย และ ยังช่วยประหยัดทรัพยากรอีกด้วย

 

สังเกตกันหรือไม่ว่า ปัจจุบันนี้เราแทบจะไม่ได้ใช้ ตั๋วเครื่องบิน ที่เป็นเล่ม หรือ Paper Ticket กันแล้ว เพราะมันถูกแทนที่ด้วย ตั๋วอิเล็คทรอนิค หรือ ตั๋วอัจฉริยะ (Electronic Ticket or E-ticket) ซึ่งเราจะได้รับ E-ticket ส่งมาทางอีเมล์ที่เราได้แจ้งไว้ ก็ต่อเมื่อเราได้ทำการติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบินจากสายการบิน หรือบริษัทตัวแทน

 

(เป็นส่วนน้อยนักที่ทางสายการบิน หรือบริษัทตัวแทน จะส่ง E-ticket ให้เราในรูปแบบกระดาษ)

เนื่องจากมันคือ ตั๋วอิเล็คทรอนิค ดังนั้นไม่ว่า เราจะดูผ่านหน้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน หรือพริ้นต์ออกมาเป็นแผ่นกระดาษ ข้อมูลที่แสดงให้เห็น ก็จะเหมือนกัน

 

และเพราะว่าเป็น ตั๋วอิเล็คทรอนิค เราจึงต้องดูข้อมูลได้ตลอดเวลา ในทางใดทางหนึ่ง ซึ่ง E-Ticket จะระบุรายละเอียดต่างๆ ของผู้โดยสาร ไว้ทั้งหมดรวมทั้ง Ticket No. หรือ หมายเลขของตั๋วเครื่องบิน เพื่อเป็นการยืนยันว่า ท่านที่จองตั๋วเครื่องบิน สามารถเดินทางได้แน่นอน และยังป้องกันการสูญหาย หรือกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆอีกด้วย

print ดีไหม?

จะเห็นได้ว่า เมื่อเราไปเช็คอินที่ เคาน์เตอร์สายการบินในวันเดินทาง เราเพียงแค่ยื่น เอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ เป็นต้น (สำหรับการเดินทางภายในประเทศ) หรือพาสปอร์ต (สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ) ให้กับพนักงานที่เคาน์เตอร์ เพียงเท่านี้พนักงานที่เคาน์เตอร์ ก็สามารถดึงข้อมูลการเดินทางของคุณ จากในระบบของสายการบิน

และพนักงานก็จะสอบถามเที่ยวบิน กับคุณอีกครั้งเพื่อยืนยันข้อมูล ถ้าหากถูกต้องตรงกัน พนักงานก็จะออกบอร์ดดิ้งพาส (Boarding Pass) ที่แสดงนามสกุล ชื่อย่อและหมายเลขที่นั่งของคุณ (Seat No.) รวมทั้งเที่ยวบิน (Flight NO.) หมายเลขประตูทางออก (Gate No.) สำหรับขึ้นเครื่อง และเวลาขึ้นเครื่อง (Boarding Time) ให้กับคุณ"

สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

  1. ชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษที่คุณแจ้งแก่สายการบิน หรือบริษัทตัวแทนเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินนั้น จะต้องตรงกับเอกสารที่คุณใช้ยืนยันตัวตนของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางภายในประเทศ หรือต่างประเทศก็ตาม
  2. อย่าลืมตรวจสอบล่วงหน้าก่อนเดินทางว่า เอกสารที่คุณจะใช้ยืนยันตัวตนของคุณนั้นยังไม่หมดอายุ

• (การหมดอายุของเอกสาร สำหรับการเดินทง ภายในประเทศกับ ต่างประเทศนั้นดูอย่างไร เหมือนหรือต่างกันไหม เรามีคำตอบ)

• รู้หรือไม่ว่า สายการบินเซาต์เวสต์ (Southwest Airlines) เป็นบริษัทที่ใช้ E-ticket ใบแรกของโลกเมื่อปี 1994 หรือ พ.ศ. 2537